Language/Mandarin-chinese/Grammar/Tones-Introduction/th

From Polyglot Club WIKI
< Language‎ | Mandarin-chinese‎ | Grammar‎ | Tones-Introduction
Revision as of 19:36, 11 August 2024 by Maintenance script (talk | contribs) (Quick edit)
(diff) ← Older revision | Latest revision (diff) | Newer revision → (diff)
Jump to navigation Jump to search
Rate this lesson:
0.00
(0 votes)


Chinese-Language-PolyglotClub.jpg
ภาษาจีนกลาง ไวยากรณ์คอร์ส 0 ถึง A1การแนะนำเสียงเน้น

การเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษาจีนกลางไม่ใช่แค่การเรียนรู้คำศัพท์หรือโครงสร้างประโยคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้าใจเสียงเน้นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสาร เนื่องจากภาษาจีนกลางมีเสียงเน้นถึงสี่เสียงและเสียงกลางซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากภาษาไทยที่เราใช้กันอยู่ในทุกวัน ในการเรียนรู้ครั้งนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับเสียงเน้นในภาษาจีนกลาง พร้อมตัวอย่างและกฎในการเปลี่ยนเสียงเน้น เพื่อให้คุณสามารถใช้ภาษาจีนกลางได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของเสียงเน้นในภาษาจีนกลาง[edit | edit source]

เสียงเน้นในภาษาจีนกลางมีความสำคัญมาก เพราะเสียงเน้นสามารถเปลี่ยนความหมายของคำได้อย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น คำว่า "ma" สามารถหมายถึงหลายอย่างขึ้นอยู่กับเสียงที่ใช้ ดังนั้นการเข้าใจเสียงเน้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

ประเภทของเสียงเน้น[edit | edit source]

ในภาษาจีนกลางมีเสียงเน้นหลัก ๆ ที่เราต้องรู้จักทั้งหมด 4 เสียง รวมถึงเสียงกลาง ซึ่งแต่ละเสียงจะมีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน

เสียงที่ 1 (เสียงสูงและคงที่)[edit | edit source]

  • เสียงนี้จะมีลักษณะสูงและคงที่ เช่น คำว่า "mā" (妈) หมายถึง "แม่"

เสียงที่ 2 (เสียงสูงขึ้น)[edit | edit source]

  • เสียงนี้จะมีลักษณะสูงขึ้น เช่น คำว่า "má" (麻) หมายถึง "ป่าน"

เสียงที่ 3 (เสียงต่ำลงแล้วสูงขึ้น)[edit | edit source]

  • เสียงนี้จะเริ่มจากเสียงต่ำแล้วสูงขึ้น เช่น คำว่า "mǎ" (马) หมายถึง "ม้า"

เสียงที่ 4 (เสียงต่ำและสั้น)[edit | edit source]

  • เสียงนี้จะมีลักษณะต่ำและสั้น เช่น คำว่า "mà" (骂) หมายถึง "ด่า"

เสียงกลาง (เสียงธรรมดา)[edit | edit source]

  • เสียงกลางจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น คำว่า "ma" (吗) ซึ่งใช้ในประโยคคำถาม

กฎการเปลี่ยนเสียงเน้น[edit | edit source]

การเปลี่ยนเสียงเน้นในภาษาจีนกลางมีหลายกฎที่สำคัญ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามคำที่ใช้

กฎที่ 1: การใช้เสียงที่ 3 ตามหลังเสียงที่ 4[edit | edit source]

เมื่อเสียงที่ 3 ตามหลังเสียงที่ 4 จะเปลี่ยนเสียงที่ 3 เป็นเสียงที่ 2 เช่น "nǐ hǎo" (你好) จะเป็น "nǐ hǎo" (你好)

กฎที่ 2: การใช้เสียงที่ 3 ตามหลังเสียงที่ 1 หรือ 2[edit | edit source]

เมื่อเสียงที่ 3 ตามหลังเสียงที่ 1 หรือ 2 จะไม่เปลี่ยนเสียง เช่น "nǐ mǎ" (你马) จะเป็น "nǐ mǎ" (你马)

ตัวอย่างการใช้เสียงเน้น[edit | edit source]

เราจะมาดูตัวอย่างเสียงเน้นต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

Mandarin Chinese Pronunciation Thai
妈 (mā) แม่
麻 (má) ป่าน
马 (mǎ) ม้า
骂 (mà) ด่า
吗 (ma) ma ใช่ไหม

เราจะพบว่าคำเดียวกัน แต่เสียงที่แตกต่างสามารถหมายถึงสิ่งที่แตกต่างได้

แบบฝึกหัดการเรียนรู้[edit | edit source]

มาลองทำแบบฝึกหัดกันดูเพื่อทดสอบความเข้าใจเกี่ยวกับเสียงเน้น

  1. การแยกเสียงเน้น:
  • ให้คุณฟังคำที่ได้ยินและระบุว่าเป็นเสียงไหน
  1. การจับคู่คำ:
  • จับคู่คำที่มีเสียงเน้นเดียวกัน
  1. การแปล:
  • แปลคำที่มีเสียงเน้นต่าง ๆ เป็นภาษาไทย
  1. การสร้างประโยค:
  • สร้างประโยคจากคำที่มีเสียงเน้นที่แตกต่างกัน
  1. การเปลี่ยนเสียง:
  • เปลี่ยนคำที่มีเสียงเน้นไปเป็นเสียงที่ถูกต้องตามกฎ

คำตอบและคำอธิบาย[edit | edit source]

1. การแยกเสียงเน้น: ฟังคำและระบุเสียง

2. การจับคู่คำ: เช่น "妈" กับ "麻"

3. การแปล: เช่น "马" แปลว่า "ม้า"

4. การสร้างประโยค: "我的妈妈是老师。" (แม่ของฉันเป็นครู)

5. การเปลี่ยนเสียง: เช่น "nǐ mǎ" เป็น "nǐ mǎ"

การเรียนรู้เสียงเน้นในภาษาจีนกลางเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่เมื่อคุณเข้าใจและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางสารบัญ - คอร์สเรียนภาษาจีนมันดาริน - ระดับ 0 ถึง A1[edit source]


พินอินและเสียงเน้น


คำทักทายและประโยคพื้นฐาน


โครงสร้างประโยคและลำดับคำ


ชีวิตประจำวันและประโยคคุ้มครองตนเอง


เทศกาลและประเพณีจีน


คำกริยาและการใช้คำกริยา


งานอดิเรก กีฬา และกิจกรรม


ภูมิภาคและสถานที่สำคัญของจีน


คำนามและสรรพนาม


อาชีพและลักษณะบุคลิกภาพ


ศิลปะและการหัดฝึกงานจีนแบบดั้งเดิม


การเปรียบเทียบและมากที่สุด


เมือง ประเทศ และสถานที่ท่องเที่ยว


จีนสมัยใหม่และเหตุการณ์ปัจจุบัน

  • [[Language/Mandarin-chinese/Culture/China's-E


บทเรียนอื่น ๆ[edit | edit source]


Contributors

Maintenance script


Create a new Lesson