Corrections

Text from jimsalsa - ภาษาไทย

  • ไปเที่ยว

    • สองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น เนื่องจากผมชอบอยู่ในธรรมชาติอย่างสินเชิง ผมดัดสินใจแรมคืนในเต็นท์ของผม ต่อนเย็นวันแรกผมเนี่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบตกดินแต่ผมหายังไม่เจอสถานที่เหมาะสมสร้างเต็นท์ ขณะนั้นฝนเริ่มตกชุก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้งเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืช คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้าว เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นพบว่าหลอหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าผมใช้แรงเท่าไร หลอนั้นไม่เคลื่อนแม่แต่น้อย ต่อนที่ผมกำลังคิดว่าจะร้องให้ มีน้ำเสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของเสียงนั้น ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตรมีผู้ชายดนหนึ่ง เขาถามว่าผมต้องการการช่วยเหลือหรือไม่ เขาบอกให้ผมทราบว่าเขาซ้อมจักรยานของผมได้ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซ้อมจักรยานให้ผมและเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อน สิ่งที่ประสบการณ์นั้นสอนให้ผมคือ ในชีวิตเราต้องเพชิญปัญหาหลากหลาย ทั้งๆที่ บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการช่วยเหลีอจากเพื่อนเราทำเกือบทุกอย่างได้

PLEASE, HELP TO CORRECT EACH SENTENCE! - ภาษาไทย

  • Title
  • Sentence 1
    • สองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น เนื่องจากผมชอบอยู่ในธรรมชาติอย่างสินเชิง ผมดัดสินใจแรมคืนในเต็นท์ของผม ต่อนเย็นวันแรกผมเนี่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบตกดินแต่ผมหายังไม่เจอสถานที่เหมาะสมสร้างเต็นท์ ขณะนั้นฝนเริ่มตกชุก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้งเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืช คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้าว เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นพบว่าหลอหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าผมใช้แรงเท่าไร หลอนั้นไม่เคลื่อนแม่แต่น้อย ต่อนที่ผมกำลังคิดว่าจะร้องให้ มีน้ำเสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของเสียงนั้น ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตรมีผู้ชายดนหนึ่ง เขาถามว่าผมต้องการการช่วยเหลือหรือไม่ เขาบอกให้ผมทราบว่าเขาซ้อมจักรยานของผมได้ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซ้อมจักรยานให้ผมและเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อน สิ่งที่ประสบการณ์นั้นสอนให้ผมคือ ในชีวิตเราต้องเพชิญปัญหาหลากหลาย ทั้งๆที่ บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการช่วยเหลีอจากเพื่อนเราทำเกือบทุกอย่างได้
      Vote now!
    • สองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น¶เนื่องจากผมชอบอยู่ในธรรมชาติอย่างสินเชิงท่ามกลางธรรมชาติ ผมัดสินใจแรมคืนนอนค้างในเต็นท์ของผม ตอนเย็นวันแรกผมเนีหนื่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบใกล้จะตกดิน แต่ผมหายังไม่เจอหาสถานที่ที่เหมาะสมสร้างในการเต็นท์ไม่ได้ ขณะนั้นฝนเริ่มตกชุก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้กางเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืชทุ่งนา คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งและหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้า เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นพบว่าหลอล้อข้างหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดาผิดปรกติ ไม่ว่าผมใช้แรงเท่าไร อนั้นไม่เคลื่อหมุนแมแต่น้อย ตอนที่ผมกำลังคิดว่านั้นผมเกือบจะร้องให้ มีน้ำเสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของเสียงนั้น ไปตามเสียงซึ่งอยู่ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตรมี ผู้ชายนหนึ่ง เขาถามว่าผมต้องการการความช่วยเหลือหรือไม่ เขาบอกให้ผมทราบผมว่าเขาซอมจักรยานของผมได้ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซอมจักรยานให้ผมและเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อน¶สิ่งที่ ประสบการณ์นั้นสอนให้ผมคือ ได้รู้ว่าในชีวิตเราต้องเชิญปัญหาหลากหลาย ทั้งๆที่ บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการ ความช่วยเหลอจากเพื่อนเราทำเกือบทุกอยช่วยให้เราแก้ไขปัญหาต่างได้¶
    • สองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น¶เนื่องจากผมชอบอยู่ในธรรมชาติอย่างสินเชิงท่ามกลางธรรมชาติ ผมดัดสินใจค้างแรมคืนในเต็นท์ของผม ตอนเย็นวันแรกผมเนีมื่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบตกดินแต่ผมหายังไม่เจอสถานที่เหมาะสมสร้หาพื้นที่ๆจะกลางเต็นท์ไม่ได้ ขณะนั้นฝนเริ่มตกชุก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้งเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืช คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้า เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นพบว่าหลอล้อข้างหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดาผิดปรกติ ไม่ว่าผมจะใช้แรงเท่าไร อนั้นก็ขยับหรือไม่เคลื่อนแม่แต่น้อย ตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะร้องห้ มีน้ำเสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของเสียงนั้น ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตรมีผู้ชายนหนึ่ง เขาถามว่าผมต้องการการความช่วยเหลือหรือไม่ เขาบอกให้ผมทราบว่าเขาซอมจักรยานของผมได้ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซอมจักรยานให้ผม และเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อน¶สิ่งที่ประสบการณ์นั้นสอนให้ผมคือ ในชีวิตเราต้องเชิญปัญหาหลากหลาย ทั้งๆที่ บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการช่วยเหลอจากเพื่อน เราทำเกือบทุกอย่างได้¶
    • เมื่อสองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในทางภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น¶
      และเนื่องจากผมชอบอยู่ในธรรมชาติอย่างสินเชิง ผมดัดสินใจแรมคืนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมจึงตัดสินใจค้างแรมในเต็นท์ของผม ตอนเย็นวันแรกผมเนีหนื่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบตกดินใกล้ตกแล้ว แต่ผมหายังไม่เจอสถานที่เหมาะสมสร้างเต็นท์หาที่กางเต็นท์ไม่ได้เลย ขณะนั้นฝนเริ่มตกชุก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้งเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืช คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้า เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นพบว่าหลอ ผมก็พบว่าล้อด้านหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดาผิดปกติไป ไม่ว่าผมจะใช้แรงเท่าไร อนั้นก็ไม่เคลื่อนแม่แต่น้อย ตอนที่ผมกำลังคิดว่าจะร้องห้ มีน้ำดีไหม ก็เสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของเสียงนั้น ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตร มีผู้ชายนหนึ่ง เขาถามว่าผมต้องการการความช่วยเหลือหรือ เขาบอกให้ผมทราบผมว่า "เขาซ้อมจักรยานของผมได้" ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซ้อมจักรยานให้ผมและเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อนกัน
      สิ่งที่ประสบการณ์นั้นสอนให้ผมคือ ในชีวิตเราต้องเ
      ชิญปัญหาหลากหลายอย่าง ทั้งๆ ที่ บางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการช่วยเหลอจากเพื่อนเราทำเกือบทุกอย่างได้¶
    • สองปีก่อน ผมปั่นจักรยานไปเที่ยวในภาคกลางของทวีปยุโรป แม้คราวว่าตอนนั้นจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมไปเที่ยวคนเดียวก็ตาม แต่ผมก็ยังรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย เพราะเกรงกลัวว่าระหว่างทางอาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น

      เนื่องจากผมชอบอยู่
      ในกับธรรมชาติอย่างสินเชิงเป็นพิเศษ ผมัดสินใจแรมคืนในเต็นท์ของผม ต่อนกางเต็นท์ เย็นวันแรกผมเนี่อยมาก ดวงอาทิตย์เกือบใกล้ตกดินแต่ผมหายังไม่เจอสถานหาที่ที่เหมาะสมสร้กับการกางเต็นท์ ขณะนั้นฝนไม่ได้ ในขณะที่ฝนก็เริ่มตกชุหนัก ผมไม่มีทางเลือก ผมก็ตั้จึงกางเต็นท์ใกล้เคียงกับนาธัญพืช คืนนั้นผมรู้สึกทั้งเหงาทั้งหนาว วันต่อมาผมตืนแต่ช้า เมื่อผมกำลังเตรียมข้าวของผมค้นได้พบว่าหลอหนึ่งของจักรยานผมมีอะไรที่ไม่ธรรมดาล้อจักรยานของผมล้อนึงมีอะไรผิดปกติ ไม่ว่าผมจะใช้แรงเท่าไร หลแค่ไหนล้อนั้นก็ไม่เคลื่อนแม่แต่น้อยขยับอนที่ผมกำลังคิดว่านี้ผมคิดว่าผมกำลังจะร้องห้ มีน้ำเสียงใครคนหนึ่งเรียกผม ผมหันตัวไปทางของไปหาต้นเสียงนั้น ห่างจากผมประมาณ ๒๐ เมตรมีผู้ชายนหนึ่งยืนอยู่ เขาถามว่าผมต้องการการความช่วยเหลือหรือไม่ เขาบอกให้ผมทราบผมว่าเขาซอมจักรยานของให้ผมได้ ตอนแรกผมไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะโชคดีขนาดนั้น แต่ทุกอย่างเป็นความจริง สุดท้ายเขาซอมจักรยานให้ผมและเราสองคนได้กลายเป็นเพื่อน
      สิ่งที่
      กัน¶

      ประสบการณ์นั้นี้สอนให้ผมคือรู้ว่า ในชีวิตเราต้องเชิญปัญหาที่หลากหลาย ทั้งๆที่ แม้ว่าบางครั้งเรารู้สึกว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ความจริงแล้วกับการด้วยความช่วยเหลีอจากเพื่อนทำให้เราทำเกือบทุกอย่างได้¶
    • ADD a NEW CORRECTION! - Sentence 1ADD a NEW CORRECTION! - Sentence 1