Difference between revisions of "Language/Korean/Grammar/Conjunctions/th"

From Polyglot Club WIKI
Jump to navigation Jump to search
m (Quick edit)
m (Quick edit)
 
Line 1: Line 1:


{{Korean-Page-Top}}
{{Korean-Page-Top}}
<div class="pg_page_title"><span lang>[[Language/Korean/th|ภาษาเกาหลี]] </span> → <span cat>[[Language/Korean/Grammar/th|ไวยากรณ์]]</span> → <span level>[[Language/Korean/Grammar/0-to-A1-Course/th|คอร์ส 0 ถึง A1]]</span> → <span title>คำเชื่อม</span></div>
== บทนำ ==
การรู้จักและใช้คำเชื่อมในภาษาเกาหลีเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้เริ่มเรียน เพราะมันช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้นและเชื่อมโยงความคิดของเราได้ดีขึ้น ในบทเรียนนี้เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับคำเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมประโยคหรือวลีต่าง ๆ การใช้คำเชื่อมไม่เพียงแต่ทำให้ประโยคของเราน่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในบทเรียนนี้เราจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้:
* ความหมายและประเภทของคำเชื่อม
* ตัวอย่างการใช้คำเชื่อมในประโยค


<div class="pg_page_title"><span lang>เรียนรู้</span> → <span cat>ไวยากรณ์</span> → <span level>[[Language/Korean/Grammar/0-to-A1-Course/th|คอร์ส 0 ถึง A1]]</span> → <span title>คำสันธานในภาษาเกาหลี</span></div>
* แบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ


__TOC__
__TOC__


== ระดับเรียนรู้ ==
=== ความหมายและประเภทของคำเชื่อม ===
 
คำเชื่อม (Conjunctions) ในภาษาเกาหลีมีหน้าที่หลักคือการเชื่อมสองประโยคหรือวลีเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น คำว่า "และ" (그리고) หรือ "แต่" (하지만) เป็นต้น การใช้คำเชื่อมทำให้เราแสดงความสัมพันธ์ระหว่างประโยคได้อย่างชัดเจน
 
=== ประเภทของคำเชื่อม ===
 
* '''คำเชื่อมที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน''' เช่น


เราจะเรียนรู้คำสันธานในภาษาเกาหลีในคอร์สเรียนภาษาเกาหลีระดับ 0 ถึง A1 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้ภาษาเกาหลีจากพื้นฐาน
* 그리고 (geurigo) = และ


== คำสันธานคืออะไร ==
* 또한 (ttohan) = นอกจากนี้


คำสันธานในภาษาเกาหลีคือคำที่ใช้เชื่อมคำ โดยใช้เชื่อมประโยคหรือวลีเข้าด้วยกัน ดังนั้น คำสันธานจึงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประโยคภาษาเกาหลี
* '''คำเชื่อมที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายตรงข้าม''' เช่น


== สอนการใช้คำสันธาน ==
* 하지만 (hajiman) = แต่


### คำสันธาน "그리고" (geuligo) ###
* 반면에 (banmyeon-e) = ในทางตรงกันข้าม


คำสันธาน "그리고" (geuligo) ใช้เพื่อเชื่อมคำ เพื่อแสดงความเป็นต่อเนื่องกับคำก่อนหน้า
=== ตัวอย่างการใช้คำเชื่อมในประโยค ===


ตัวอย่าง:
เรามาดูตัวอย่างเพื่อที่จะเข้าใจการใช้คำเชื่อมกันดีกว่า


{| class="wikitable"
{| class="wikitable"
! เกาหลี !! การออกเสียง !! แปลภาษาไทย
 
! Korean !! Pronunciation !! Thai
 
|-
|-
| 나는 사과를 사러 가고 있다. || naneun sagwareul salo gago itda || ฉันกำลังไปซื้อแอปเปิ้ล
 
| 나는 사과를 좋아해요. 그리고 바나나도 좋아해요. || naneun sagwareul joahaeyo. geurigo bananado joahaeyo. || ฉันชอบแอปเปิ้ล และยังชอบกล้วยด้วย
 
|-
|-
| 나는 사과를 사러 가고 배가 고프다. || naneun sagwareul salo gago baega gophuda || ฉันกำลังไปซื้อแอปเปิ้ล และฉันหิวมาก
|}


### คำสันธาน "그래서" (geulaeseo) ###
| 나는 피자를 좋아해요. 하지만 샐러드는 싫어요. || naneun pijareul joahaeyo. hajiman saelleodeun silh-eoyo. || ฉันชอบพิซซ่า แต่ไม่ชอบสลัด


คำสันธาน "그래서" (geulaeseo) ใช้เพื่อเชื่อมคำ เพื่อแสดงผลลัพธ์หรือสาเหตุที่เกิดขึ้นจากคำก่อนหน้า
|-


ตัวอย่าง:
| 오늘 날씨가 좋아요. 또한 내일도 좋을 것 같아요. || oneul nalssiga joayo. ttohan naeil-do joheul geot gatayo. || วันนี้อากาศดี และวันพรุ่งนี้ก็น่าจะดี


{| class="wikitable"
! เกาหลี !! การออกเสียง !! แปลภาษาไทย
|-
|-
| 나는 배가 고프다. 그래서 치킨을 먹었다. || naneun baega gophuda. geulaeseo chikin-eul meogeosda || ฉันหิวมาก ดังนั้นฉันกินไก่ทอด
 
| 나는 영화를 보고 싶어요. 반면에 시간은 없어요. || naneun yeonghwareul bogo sip-eoyo. banmyeon-e sigan-eun eobs-eoyo. || ฉันอยากดูหนัง แต่ไม่มีเวลา
 
|}
|}


### คำสันธาน "하지만" (hajiman) ###
=== การสร้างประโยคที่ซับซ้อน ===
 
การใช้คำเชื่อมช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้นได้ ดังนั้นเรามาดูวิธีการสร้างประโยคที่ซับซ้อนจากคำเชื่อมกันดีกว่า
 
1. '''ใช้คำเชื่อมเพื่อเชื่อมประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน''':
 
* ตัวอย่าง: "나는 밥을 먹었어요. 그리고 물도 마셨어요." (ฉันกินข้าว และดื่มน้ำด้วย) กลายเป็น "나는 밥을 먹었고 물도 마셨어요." (ฉันกินข้าวและดื่มน้ำ)
 
2. '''ใช้คำเชื่อมเพื่อเชื่อมประโยคที่มีความหมายตรงข้าม''':
 
* ตัวอย่าง: "나는 운동을 좋아해요. 하지만 피곤해요." (ฉันชอบออกกำลังกาย แต่รู้สึกเหนื่อย) สามารถเปลี่ยนเป็น "나는 운동을 좋아하지만 피곤해요." (ฉันชอบออกกำลังกายแต่รู้สึกเหนื่อย)
 
=== แบบฝึกหัด ===
 
เพื่อให้คุณได้ฝึกฝนการใช้คำเชื่อม ลองทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้กันนะคะ
 
1. เติมคำเชื่อมที่เหมาะสมในประโยคต่อไปนี้:
 
* 나는 책을 읽어요 ___ 음악을 들어요. (และ)
 
* 나는 여행을 가고 싶어요 ___ 돈이 없어요. (แต่)
 
* 오늘 날씨가 좋고 ___ 내일도 좋을 것 같아요. (นอกจากนี้)
 
2. แปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาเกาหลี:
 
* ฉันชอบกาแฟ แต่ฉันไม่ชอบชา
 
* วันนี้อากาศดี และฉันจะไปเดินเล่น


คำสันธาน "하지만" (hajiman) ใช้เพื่อเชื่อมคำเพื่อแสดงความขัดแย้งกับคำก่อนหน้า
3. เขียนประโยคสองประโยคที่เชื่อมกันด้วยคำเชื่อมที่เรียนรู้


ตัวอย่าง:
=== คำตอบสำหรับแบบฝึกหัด ===


{| class="wikitable"
1.
! เกาหลี !! การออกเสียง !! แปลภาษาไทย
 
|-
* 나는 책을 읽어요 '''그리고''' 음악을 들어요.
| 나는 사과를 좋아하지만 바나나도 좋아한다. || naneun sagwareul joahajiman bananado joahanda || ฉันชอบแอปเปิ้ล แต่ฉันชอบกล้วยด้วย
 
|}
* 나는 여행을 가고 싶어요 '''하지만''' 돈이 없어요.
 
* 오늘 날씨가 좋고 '''또한''' 내일도 좋을 것 같아요.


### คำสันธาน "그러나" (geureona) ###
2.


คำสันธาน "그러나" (geureona) ใช้เพื่อเชื่อมคำเพื่อแสดงความขัดแย้งกับคำก่อนหน้าเหมือนกับคำสันธาน "하지만"
* 나는 커피를 좋아하지만 차는 싫어해요.


ตัวอย่าง:
* 오늘 날씨가 좋고 나는 산책하러 갈 거예요.


{| class="wikitable"
3. ตัวอย่างการเขียนประโยค:
! เกาหลี !! การออกเสียง !! แปลภาษาไทย
|-
| 나는 사과를 좋아한다. 그러나 바나나는 좋아하지 않는다. || naneun sagwareul joahanda. geureona banananeun joahaji anhneunda. || ฉันชอบแอปเปิ้ล แต่ฉันไม่ชอบกล้วย
|}


## สรุป ##
* 나는 영화를 보고 싶어요. 그리고 책도 읽고 싶어요. (ฉันอยากดูหนัง และยังอยากอ่านหนังสือด้วย)


ในหัวข้อนี้ เราได้เรียนรู้คำสันธานในภาษาเกาหลีที่ใช้สำหรับเชื่อมคำเพื่อสร้างประโยคภาษาเกาหลี หลังจากเรียนรู้เราสามารถสร้างประโยคภาษาเกาหลีที่มีความสมบูรณ์และมีความหมายได้แล้ว
การเรียนรู้คำเชื่อมในภาษาเกาหลีจะช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคที่หลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น หวังว่าบทเรียนนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะคะ!


{{#seo:
{{#seo:
|title=เรียนรู้คำสันธานในภาษาเกาหลี
 
|keywords=เรียนภาษาเกาหลี, ไวยากรณ์, คอร์สภาษาเกาหลี, เรียนรู้คำสันธานในภาษาเกาหลี
|title=เรียนรู้คำเชื่อมในภาษาเกาหลี
|description=ในหัวข้อนี้ เราได้เรียนรู้คำสันธานในภาษาเกาหลีที่ใช้สำหรับเชื่อมคำเพื่อสร้างประโยคภาษาเกาหลี
 
|keywords=คำเชื่อม, ภาษาเกาหลี, ไวยากรณ์, เรียนภาษาเกาหลี, คอร์ส A1
 
|description=ในบทเรียนนี้คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำเชื่อมในภาษาเกาหลี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนได้
 
}}
}}


{{Korean-0-to-A1-Course-TOC-th}}
{{Template:Korean-0-to-A1-Course-TOC-th}}


[[Category:Course]]
[[Category:Course]]
Line 82: Line 133:
[[Category:0-to-A1-Course]]
[[Category:0-to-A1-Course]]
[[Category:Korean-0-to-A1-Course]]
[[Category:Korean-0-to-A1-Course]]
<span gpt></span> <span model=gpt-3.5-turbo></span> <span temperature=0.7></span>
<span openai_correct_model></span> <span gpt></span> <span model=gpt-4o-mini></span> <span temperature=0.7></span>





Latest revision as of 19:20, 14 August 2024


Korean-Language-PolyglotClub.png

บทนำ[edit | edit source]

การรู้จักและใช้คำเชื่อมในภาษาเกาหลีเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้เริ่มเรียน เพราะมันช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้นและเชื่อมโยงความคิดของเราได้ดีขึ้น ในบทเรียนนี้เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับคำเชื่อมที่ใช้ในการเชื่อมประโยคหรือวลีต่าง ๆ การใช้คำเชื่อมไม่เพียงแต่ทำให้ประโยคของเราน่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในบทเรียนนี้เราจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้:

  • ความหมายและประเภทของคำเชื่อม
  • ตัวอย่างการใช้คำเชื่อมในประโยค
  • แบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ

ความหมายและประเภทของคำเชื่อม[edit | edit source]

คำเชื่อม (Conjunctions) ในภาษาเกาหลีมีหน้าที่หลักคือการเชื่อมสองประโยคหรือวลีเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น คำว่า "และ" (그리고) หรือ "แต่" (하지만) เป็นต้น การใช้คำเชื่อมทำให้เราแสดงความสัมพันธ์ระหว่างประโยคได้อย่างชัดเจน

ประเภทของคำเชื่อม[edit | edit source]

  • คำเชื่อมที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน เช่น
  • 그리고 (geurigo) = และ
  • 또한 (ttohan) = นอกจากนี้
  • คำเชื่อมที่ใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายตรงข้าม เช่น
  • 하지만 (hajiman) = แต่
  • 반면에 (banmyeon-e) = ในทางตรงกันข้าม

ตัวอย่างการใช้คำเชื่อมในประโยค[edit | edit source]

เรามาดูตัวอย่างเพื่อที่จะเข้าใจการใช้คำเชื่อมกันดีกว่า

Korean Pronunciation Thai
나는 사과를 좋아해요. 그리고 바나나도 좋아해요. naneun sagwareul joahaeyo. geurigo bananado joahaeyo. ฉันชอบแอปเปิ้ล และยังชอบกล้วยด้วย
나는 피자를 좋아해요. 하지만 샐러드는 싫어요. naneun pijareul joahaeyo. hajiman saelleodeun silh-eoyo. ฉันชอบพิซซ่า แต่ไม่ชอบสลัด
오늘 날씨가 좋아요. 또한 내일도 좋을 것 같아요. oneul nalssiga joayo. ttohan naeil-do joheul geot gatayo. วันนี้อากาศดี และวันพรุ่งนี้ก็น่าจะดี
나는 영화를 보고 싶어요. 반면에 시간은 없어요. naneun yeonghwareul bogo sip-eoyo. banmyeon-e sigan-eun eobs-eoyo. ฉันอยากดูหนัง แต่ไม่มีเวลา

การสร้างประโยคที่ซับซ้อน[edit | edit source]

การใช้คำเชื่อมช่วยให้เราสามารถสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้นได้ ดังนั้นเรามาดูวิธีการสร้างประโยคที่ซับซ้อนจากคำเชื่อมกันดีกว่า

1. ใช้คำเชื่อมเพื่อเชื่อมประโยคที่มีความหมายเหมือนกัน:

  • ตัวอย่าง: "나는 밥을 먹었어요. 그리고 물도 마셨어요." (ฉันกินข้าว และดื่มน้ำด้วย) กลายเป็น "나는 밥을 먹었고 물도 마셨어요." (ฉันกินข้าวและดื่มน้ำ)

2. ใช้คำเชื่อมเพื่อเชื่อมประโยคที่มีความหมายตรงข้าม:

  • ตัวอย่าง: "나는 운동을 좋아해요. 하지만 피곤해요." (ฉันชอบออกกำลังกาย แต่รู้สึกเหนื่อย) สามารถเปลี่ยนเป็น "나는 운동을 좋아하지만 피곤해요." (ฉันชอบออกกำลังกายแต่รู้สึกเหนื่อย)

แบบฝึกหัด[edit | edit source]

เพื่อให้คุณได้ฝึกฝนการใช้คำเชื่อม ลองทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้กันนะคะ

1. เติมคำเชื่อมที่เหมาะสมในประโยคต่อไปนี้:

  • 나는 책을 읽어요 ___ 음악을 들어요. (และ)
  • 나는 여행을 가고 싶어요 ___ 돈이 없어요. (แต่)
  • 오늘 날씨가 좋고 ___ 내일도 좋을 것 같아요. (นอกจากนี้)

2. แปลประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาเกาหลี:

  • ฉันชอบกาแฟ แต่ฉันไม่ชอบชา
  • วันนี้อากาศดี และฉันจะไปเดินเล่น

3. เขียนประโยคสองประโยคที่เชื่อมกันด้วยคำเชื่อมที่เรียนรู้

คำตอบสำหรับแบบฝึกหัด[edit | edit source]

1.

  • 나는 책을 읽어요 그리고 음악을 들어요.
  • 나는 여행을 가고 싶어요 하지만 돈이 없어요.
  • 오늘 날씨가 좋고 또한 내일도 좋을 것 같아요.

2.

  • 나는 커피를 좋아하지만 차는 싫어해요.
  • 오늘 날씨가 좋고 나는 산책하러 갈 거예요.

3. ตัวอย่างการเขียนประโยค:

  • 나는 영화를 보고 싶어요. 그리고 책도 읽고 싶어요. (ฉันอยากดูหนัง และยังอยากอ่านหนังสือด้วย)

การเรียนรู้คำเชื่อมในภาษาเกาหลีจะช่วยให้คุณสามารถสร้างประโยคที่หลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น หวังว่าบทเรียนนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณนะคะ!

รายการสารบัญ - คอร์สเรียนภาษาเกาหลี - ระดับ 0 ถึง A1[edit source]


ตัวอักษรเกาหลี


การทักทายและการแนะนำตัว


วัฒนธรรมและประเพณีของเกาหลี


การสร้างประโยค


กิจวัตรประจำวัน


วัฒนธรรมป็อบเกาหลี


อธิบายลักษณะของบุคคลและสิ่งของ


อาหารและเครื่องดื่ม


ประเพณีเกาหลี


แสดงช่วงเวลาของกริยา


การเดินทางและการท่องเที่ยว


ศิลปะและการช่างฝีมือเกาหลี


คำเชื่อมและตัวเชื่อม


สุขภาพและร่างกาย


ธรรมชาติของเกาหลี


บทเรียนอื่น ๆ[edit | edit source]